นับตั้งแต่ปี 2020 ที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นยุคทองแห่งการเติบโตของอุตสาหกรรม Cryptocurrency เลยก็ว่าได้ เพราะไม่ใช้เพียงแค่ราคาของพี่ใหญ่อย่าง Bitcoin ที่ราคาเกิดการปรับตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรง
แต่ด้วยความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain นั้น มันยังส่งผลให้มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency รวมไปถึงบริษัทผู้พัฒนาต่างๆเพิ่มมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น Token ที่จำนวนมากขึ้น มีการนำไปปรับใช้ในอุตสาหกรรมดั้งเดิมมากขึ้น และมีศูนย์ซื้อขายแลกเปลี่ยนออกมาให้ผู้คนได้ใช้งานกันมากขึ้นอีกด้วย
โดยหลายบริษัทที่เป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurency นั้นได้รับความนิยมในการใช้งานจากผู้คนเป็นจำนวนมาก จนทำให้บริษัทมีชื่อเสียง และกลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลอย่างมากในวงการการเงินของโลกนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ดีต่อวงการ Cryptocurrency แต่ในปัจจุบันกลับมีมิจฉาชีพ และผู้ไม่หวังดีจำนวนไม่น้อย ที่ได้นำชื่อของบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านั้นไปทำการใช้งาน
โดยการตั้งชื่อบริษัทของตนที่อาจจะใช้ในการก่ออาชญากรรม หรือกระทำการต่างๆตามชื่อของบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านั้น
เพื่อให้บริษัทของตนดูมีความเกี่ยวข้อง และใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงสร้างความเข้าใจผิดให้กับนักลงทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายนั่นเอง
จึงทำให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งอเมริกา หรือ SEC ได้จัดทำรายชื่อ บริษัทที่สร้างความเข้าใจผิดให้กับนักลงทุน ขึ้น
ซึ่งในปัจจุบันมีบริษัทจำนวนไม่น้อยที่ถูกจัดเข้าไปอยู่ในรายชื่อ เนื่องจากบริษัทเหล่านั้นเข้าข่ายสร้างความเข้าใจผิดให้กับนักลงทุน
ไม่ว่าจะเป็น "SuperBinance" และ "Superfxtrading" ซึ่งได้รับการตั้งชื่อเพื่อใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงของ Binance และ FTX อีกทั้งยังมี "Gemini M&A" ที่เลียนแบบการควบรวมกิจการของธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Goldman Sachs และ Crypto Exchange อย่าง Gemini อีกด้วย
โดยล่าสุดทาง SEC ได้ประกาศว่า จะทำการเพิ่มรายชื่อลงใน บริษัทที่เข้าข่ายสร้างความเข้าใจผิดให้กับนักลงทุนเพิ่มเติมถึง 3 บริษัท ไม่ว่าจะเป็น Bittrade Capitals, 247Crypto Trade" และ Bitpayfxpro
เนื่องจากบริษัทดังกล่าว เป็นบริษัทที่ทำการตั้งชื่อตามบริษัทชื่อดัง และเข้าข่ายการสร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้ลงทุน ตัวอย่างเช่น Bitpayfxpro ที่ตั้งชื่อคล้าย BitPay ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการประมวลผลการชำระเงินด้วย Bitcoin ในแอตแลนตาที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2554 นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ในการประกาศ ทาง SEC ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า การแจ้งเตือนเกี่ยวกับรายชื่อบริษัทดังกล่าว มีขึ้นเพื่อเป็นการเตือนนักลงทุนเท่านั้น และไม่ได้หมายความว่าบริษัทในรายการดังกล่าวได้ละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่บริษัทเหล่านี้ตั้งชื่อบริษัทที่อาจทำให้ผู้คนเข้าใจผิดนั้น อาจจะมีวัตถุประสงค์อื่นๆแอบแฝงเพื่อหลอกลวงให้คนหันมาใช้เพื่อนำข้อมูลบุคคลไปใช้ในทางไม่ดีก็เป็นได้
ทำให้เราต้องระมัดระวังตัวเอง และควรจะตรวจสอบแพลตฟอร์มหรือผลิตภัณฑ์ที่จะลงทุนอย่างรอบคอบ