ในปัจจุบัน หลังจากที่ตลาด Cryptocurrency ได้เติบโตขึ้น ส่งผลให้เกิดการพัฒนานวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ต่างๆออกมาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น DeFi, Metaverse หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงในตอนนี้ อย่าง NFT
ซึ่งแน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ได้กล่าวมานั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากการพัฒนา Blockchain ขาดสิ่งที่เรียกว่า Smart Contract หรือสัญญาอัจฉริยะ ที่ในปัจจุบันมีการพัฒนากันอย่างแพร่หลาย
โดยเครือข่ายที่ยังคงได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการพัฒนา DApp นั้น คงหนีไม่พ้น Ethereum Network ที่ในปัจจุบันมี Total Value Locked หรือ TVL สูงกว่า $1.13 แสนล้าน หรือเกือบ 3.7 ล้านล้านบาทนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม แม้ในปัจจุบัน Ethereum Network จะได้รับความนิยมจากนักลงทุน และนักพัฒนาเป็นจำนวนมาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ค่า Gas หรือค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมบน Ethereum นั้นค่อนข้างสูง และมีความเร็วในการทำธุรกรรมค่อนข้างช้าลงเนื่องจากมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก
ซึ่งทำให้ Ethereum Network ต้องพบเจอกับปัญหาการขยายขนาดของระบบ เพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานผลิตภัณฑ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นบนเครือข่าย
ส่งผลให้ในปัจจุบัน มีการพัฒนาสิ่งที่เรียกว่า Leyer 2 ขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และยังสามารถทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์เดิมที่อยู่บนเครือข่ายเดิมได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาค่า Gas ที่แพง และการทำธุรกรรมที่ช้าลงได้นั่นเอง
โดยหนึ่งในผู้พัฒนา Solution Layer 2 ที่ถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมากในช่วงต้นปีก่อนนั้น คงจะหนีไม่พ้น Optimism ที่ได้ทำการพัฒนา Layer 2 แบบ Rollups เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเครือข่าย และทำให้เครือข่ายสามารถปรับขนาดได้นั่นเอง
ซึ่ง Optimism สามารถระดมทุนในรอบ Serise A ได้มากกว่า 8.12 ร้อยล้านบาทเลยทีเดียว
อีกทั้งล่าสุดได้มีการประกาศจากทาง Optimism ว่า ทางบริษัทสามารถระดมทุนเพิ่มได้กว่า $150 ล้าน หรือประมาณ 4.8 พันล้านบาท ในรอบ Serise B โดยมีผู้เข้าร่วมการระดมทุนคือ ยักษ์ใหญ่เจ้าเดิมอย่าง Andreessen Horowitz หรือ a16z และ Paradigm
โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนในรอบนี้ ทาง Optimism จะนำไปทำการจ้างนักพัฒนาเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงขึ้น
ซึ่งได้มีการเปิดเผยเพิ่มเติมจากคุณ Chris Dixon และ Arianna Simpson หนึ่งในหุ้นส่วนของ a16z ว่า “เรายกย่องในทีมพัฒนาของ Optimism เป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเขามีประสบการณ์ในการออกแบบ Solution และมีความพิถีพิถัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยการสร้าง Solution ให้ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นเอง”