อย่างที่เราได้เคยนำเสนอไปในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงสถานการณ์การเมืองโลกที่ยังคงอยู่ในสภาวะวิกฤต จากการประกาศสงคราม และการโจมตีที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากทางรัสเซีย
.
โดยทำให้เกิดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และการเงินจากนานาชาติ ซึ่งหัวหอกในการคว่ำบาตรครั้งนี้คงจะหนีไม่พ้นประเทศขั้วตรงข้ามทางอุดมการณ์อย่างสหรัฐอเมริกาเป็นแน่
.
ที่ได้ทำการคว่ำบาตรทางการเงิน และยังทำการตรวจสอบข้อมูล และการทำธุรกรรมบน Blockchain เพื่อป้องกันการสนับสนุนเงินทุนให้กับทางรัสเซียผ่าน Cryptocurrency นั่นเอง
.
ซึ่งแน่นอนว่า NFT หรือ Non Fungible Tokens นั้น ก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำงานอยู่บนระบบ Blockchain นั่นเอง
.
โดยทำให้ล่าสุดแพลตฟอร์ม NFT Marketplace สัญชาติอเมริกาที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง OpenSea ได้ออกมาเปิดเผยถึงรายชื่อประเทศที่จะถูกแบนการใช้งาน ซึ่งจะทำให้ผู้สร้างสรรค์ผลงาน หรือผู้ซื้อ ไม่สามารถทำธุรกรรมต่างๆได้
.
โดยประเทศที่ถูกแบนการใช้งานนั้น ประกอบไปด้วย รัสเซีย เกาหลีเหนือ ซีเรีย และอิหร่าน เป็นต้น
.
ซึ่งทำให้ผู้ใช้งาน OpenSea ที่อยู่ในประเทศดังกล่าว และผู้คนทั่วไป รู้สึกไม่พอใจการกระทำของ OpenSea เป็นอย่างมาก
.
โดยได้มีการเปิดเผยจาก Bornosor ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงาน NFT บน OpenSea ชาวอิหร่าน ว่า “เราตื่นขึ้นมา และพบว่าบัญชี OpenSea ของเราถูกปิดการใช้งาน โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า หรือคำอธิบายใดๆเลย”
.
จนทำให้มีการเปิดเผยจากทางโฆษกของ OpenSea ว่า “ทางเราขอสงวนสิทธิ์ในการแบนบัญชีที่ละเมิดมาตรการ การคว่ำบาตร โดยทางเรามีนโยบายที่จะไม่ให้บริการกับบัญชีผู้ใช้งานในประเทศที่ถูกคว่ำบาตร หากเราพบว่าบัญชีดังกล่าวทำการละเมิดมาตรการของเรา” นั่นเอง
.
ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ถึงความเป็น Decentralized ของแพลตฟอร์ม OpenSea ที่ไม่ควรถูกจำกัดสิทธิ์ในการใช้งาน และทำการควบคุมการใช้งานต่างๆอีกด้วย