แน่นอนว่าฝันร้ายยังไม่จบสำหรับผู้ที่ถือ LUNA และ UST ที่ในวันนี้ราคายังพากันดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลาย Exchange ต้องพักการซื้อขาย และปิดการฝากถอนชั่วคราวอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้สภาพคล่องของตลาด Cryptocurrency ในภาพรวมเริ่มลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนตลาดขาดความเชื่อมั่นจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก
ซึ่งทำให้ Token ต่างๆ รวมไปถึง Stablecoin อีกหลายเหรียญเริ่มได้รับผลกระทบแบบที่อาจเกิดขึ้นแบบโดมิโน่ จากการโจมตีในครั้งนี้อีกด้วย
เช่น USDT หรือ Tether ที่ล่าสุดเมื่อวันที่ผ่านมาได้มีการเทขายจนทำให้ราคาเกิดการปรับตัวลงมาที่ $0.95 หรือประมาณ 33 บาท เป็นต้น
ซึ่งแน่นอนว่าหลายฝ่ายเริ่มแสดงความกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหาก USDT เกิดการเทขายอย่างหนักจนไม่สามารถรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนไว้ได้แบบ UST นั้น
จะส่งผลกระทบที่ร้ายแรงเป็นอย่างมากต่อตลาด Cryptocurrency จนอาจนำไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “จุดจบของตลาด” เลยก็ว่าได้
ซึ่งแน่นอนว่าทาง Tether ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนา USDT นั้นได้เล็งเห็นถึงปัญหาและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ทำให้ทาง Tether ได้ทำการเพิ่มสภาพคล่อง อัดฉีด USDT เป็นจำนวนกว่า $4 ร้อยล้าน หรือประมาณ 1.38 หมื่นล้านบาท เข้าสู่ Exchange ต่างๆอย่างรวดเร็ว
จนทำให้ Tether สามารถรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนไว้ได้ในที่สุด
แต่อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าการอัดฉีดสภาพคล่องด้วย Token อย่าง USDT เข้าสู่ระบบอย่างรวดเร็วนั้น ส่งผลให้ปริมาณการทำธุรกรรมบนระบบ Blockchain ต่างๆที่สามารถใช้งาน USDT ได้นั้น เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยในช่วงวันพฤหัสฯที่ผ่านมามีปริมาณการโอน USDT เพียงวันเดียว สูงถึง $2.2 หมื่นล้าน หรือประมาณ 7.6 แสนล้านบาท ซึ่งมีปริมาณสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2021 ที่ผ่านมา
จนทำให้ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม หรือค่า Gas พุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด
โดยได้มีการรายงานจาก Etherscan ว่า ค่า Gas ของ Ethereum นั้นเพิ่มสูงขึ้นกว่า 4 เท่าเลยทีเดียวแม้ราคาของ Ethereum จะปรับตัวลงมาแตะ $2,000 หรือประมาณ 69,000 บาท
ซึ่งถือว่าค่อนข้างผิดปกติเป็นอย่างมาก เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วหากราคาของ Ethereum เกิดการปรับตัวลงจะส่งผลให้ค่า Gas ถูกลงไปด้วย
จึงทำให้เราต้องติดตามข่าวสารสถานการณ์ของตลาดอย่างใกล้ชิด ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป