ในปัจจุบันเทคโนโลยี Blockchain และอุตสาหกรรม Cryptocurrency นั้น ได้รับความสนใจจากผู้คนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกล่าวได้ว่ามันกำลังกลายเป็นกระแสสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และแวดวงการเงินมากอย่างปฏิเสธไม่ได้ 

‍

ซึ่งทำให้รัฐบาลทั่วโลกต้องปรับตัว พร้อมกับการศึกษา และหาวิธีในการควบคุม เพื่อใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin และ ผลิตภัณฑ์อื่นๆให้ได้มากที่สุด

‍

ตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกาที่นอกเหนือจากกรุงวอชิงตัน ดีซี ไมอามี่ และเปอร์โตริโกแล้ว ยังมีรัฐอีกอย่างน้อย 36 รัฐที่ได้ทำการพิจารณาร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency อย่างต่อเนื่อง

‍

โดยที่ล่าสุด วุฒิสภารัฐฮาวายได้อนุมัติร่างกฎหมาย SB2695 ที่ทำให้รัฐสามารถจัดตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับ Blockchain และ Cryptocurrency โดยเฉพาะ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

‍

ซึ่งร่างกฎหมายใหม่นี้มีชื่อว่า “A Bill for an Act Related to Cryptocurrency” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาว่า รัฐจะมีวิธีใดที่สามารถนำมาควบคุมหรือกำกับดูแลอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลได้บ้าง 

‍

รวมทั้งจะสามารถนำเทคโนโลยี Blockchain และ Cryptocurrency มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อรัฐอย่างไรได้บ้าง

‍

โดยคณะทำงานที่ได้ทำการจัดตั้งขึ้นในครั้งนี้ มีความตั้งใจที่จะทำการตรวจสอบข้อมูลร่วมกับรัฐอื่นๆของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย เพื่อทำการพัฒนาแผนงานที่จะสามารถนำ Blockchain ไปใช้ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนได้

‍

ซึ่งคณะทำงานในครั้งนี้จะประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่ของรัฐฮาวาย, นักพัฒนา Web3 และเหล่าคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยฮาวายที่มีความเชี่ยวชาญด้านสกุลเงินดิจิทัล ที่ได้รับการแต่งตั้งจากวุฒิสภาและผู้ว่าราชการแห่งรัฐฮาวายนั่นเอง

‍

แม้ว่าฮาวายจะเป็นรัฐล่าสุดที่ได้ทำการอนุมัติร่างกฎหมาย เพื่อจัดตั้งคณะทำงานสำหรับการศึกษาและตรวจสอบอุตสาหกรรม Blockchain & Cryptocurrency 

‍

แต่หลายคนเชื่อมั่นว่าฮาวายจะไม่ใช่รัฐสุดท้าย เพราะยังมีอีกหลายรัฐ และอีกหลายประเทศที่เริ่มสนใจอุตสาหกรรม Cryptocurrency อย่างต่อเนื่อง

‍

ส่งผลให้หลายประเทศเริ่มวางแผนที่จะศึกษาเทคโนโลยี Blockchain เช่นเดียวกัน ทำให้เราต้องติดตามทิศทางของตลาดอย่างใกล้ชิดว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป