เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ที่สุดในสัปดาห์ผ่านมาสำหรับวงการเทคโนโลยีและ Social media เลยก็ว่าได้ จากในกรณีที่ Elon Musk CEO ของ Tesla ได้ทำการซื้อหนึ่งในบริษัท Social media ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Twitter แบบ Takeover
โดย Elon Musk ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขาจะเปลี่ยนวิธีที่แพลตฟอร์ม Twitter ใช้จัดการกับเนื้อหาที่มีการโต้เถียง และสนับสนุนการพูดอย่างอิสระตามกฎหมายของประเทศนั้นๆ รวมถึงจัดการสแปมและ scam bots ต่างๆที่อยู่บน Twitter อีกด้วย
ส่งผลให้เกิดการแสดงความคิดเห็นจากผู้คนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี Social media และ Crypto เป็นจำนวนมาก ทั้งในด้านที่เห็นด้วยและเห็นต่าง
ซึ่งแม้ว่าโดยส่วนใหญ่แล้วเหล่าผู้ใช้งาน Twitter จะค่อนข้างเห็นด้วย พร้อมกับชื่นชม Elon Musk และยกย่องการเคลื่อนไหวดังกล่าว ว่าเป็นทิศทางที่ถูกต้องสำหรับเสรีภาพในการพูดบน Social media
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงมีอีกหลายฝ่ายมีความเห็นต่าง เพราะมองว่าการกระทำในครั้งนี้เป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตรต่อการแสดงความเห็น และถูกมองว่าเป็นการที่มหาเศรษฐีคนหนึ่งทำการเข้ายึดพื้นที่การแสดงความเห็นที่เป็นสาธารณะ
โดยหนึ่งในคนที่ไม่ประทับใจและเห็นต่าง กับการกระทำในครั้งนี้ของ Elon Musk ก็คือ คุณ Jackson Palmer ผู้เป็น Co-Founder และผู้ร่วมก่อตั้ง Meme-Coin ที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก โดยยังเป็นเหรียญที่ Elon Musk ชื่นชอบเป็นพิเศษอย่าง Dogecoin นั่นเอง
ที่ล่าสุดคุณ Jackson Palmer ได้ออกมาทำการทวีตข้อความเชิงกระทบกระทั่งผ่านบัญชี Twitter ของตนเองว่า “ต้องใช้กระบวนการคิดที่สลับซับซ้อนพอสมควรในการเชื่อมโยง ‘ความเป็นอิสระ’ บนแพลตฟอร์ม Social media ที่มีความเสรี กับการ Takeover อย่างไม่เป็นมิตรของชายที่ร่ำรวยที่สุดในโลก”
ซึ่งเป็นการแสดงความเห็นต่างต่อการซื้อ Twitter ของ Elon Musk ในครั้งนี้ เนื่องจากคุณ Jackson Palmer มองว่ามันเป็นการควบคุมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นบนแพลตฟอร์ม Social media ที่ครั้งหนึ่งเคยมีความเป็นสาธารณะที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนักสำหรับคนในวงการ เทคโนโลยี และ Cryptocurrency เนื่องจากคุณ Jackson Palmer เคยออกมาวิจารณ์อุตสาหกรรม Cryptocurrency ในช่วงก่อนหน้านี้ว่า
Cryptocurrency เป็นเทคโนโลยีของโลกทุนนิยม ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มความมั่งคั่งให้กับเหล่าผู้สนับสนุนและนักลงทุนรายใหญ่ ผ่านการหลีกเลี่ยงภาษี การกำกับดูแลด้านกฎระเบียบที่น้อย และความขาดแคลนในการบังคับใช้อย่างเข้มงวด
โดยตลาด Cryptocurrency นั้นถูกควบคุมจากเหล่าผู้มั่งคั่งที่มีอำนาจ เพื่อที่จะสร้างผลกำไรอย่างมีประสิทธิภาพให้กับพวกเขาก็เท่านั้น
ซึ่ง Palmer กล่าวว่าเขาจะไม่กลับไปใช้ cryptocurrency อีก