Information
Band Protocol เป็นตัวกลางที่ช่วยให้ข้อมูลของโลกแห่งความเป็นจริงนั้นเชื่อมรวมด้วยกันกับสัญญาอัจฉริยะ Smart Contract โดยสร้างขึ้นอยู่บน Band Chain ซึ่งโปรเจคดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นที่สามารถทำให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้ข้อมูลเชื่อมต่อกันกับโลกของ Blockchain ได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่ง Band Chain จะเป็นระบบที่ช่วยจัดหาข้อมูล และการแบ่งกลุ่มของชุดข้อมูลให้กับเครือข่ายอย่างเป็นระบบในโครงสร้างแบบ Decentralize ที่มีความปลอดภัยเป็นอย่างมาก
กว่าจะมาเป็น Band Protocol
Band Protocol เป็นโปรเจคที่ถูกพัฒนาโดยคนไทยที่ได้รับการระดมทุนกว่า 10 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2017 นำโดย Sequoia Capital, Dunamu & Partners, Spartan Capital และ Binance Labs ซึ่ง Band Protocol นั้นได้สร้าง Band Chain ซึ่งใช้โครงสร้างจาก Framework Cosmos SDK ที่แก้ปัญหาเรื่องความยุ่งยากของการสร้าง Chain ต่างๆ โดยผู้พัฒนาไม่ต้องเขียน Coding เอง พูดอีกนัยหนึ่งมันเป็นเสมือน Coding สำเร็จรูปนั้นเอง
ปัจจุบัน Cosmos SDK ถูกใช้พัฒนาอย่างแพร่หลายในองค์กรระดับโลก เช่น Binance, Crypto.com และ Terra อีกด้วย และจุดเด่นของมันทำให้คนที่ใช้ Cosmos SDK สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างดี Band Chain ถูกพัฒนาโดยคุณสรวิศ ศรีนวกุล อายุ 28 ปี จบปริญญาตรีสาขาวิศวคอมพิวเตอร์ และปริญญาโทจาก Stanford University ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่ เคยได้ถูก Forbes บันทึกข้อมูล Forbes 30 Under 30 ในกลุ่ม Asia - Enterprise Technology อีกด้วย

เทคโนโลยีเบื้องหลัง Band Protocol
อย่างที่ทราบกันดีว่าทุกธุรกรรมของโลก Blockchain นั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการหรือเราเรียกว่าค่า Gas ซึ่งนับว่าเป็นต้นทุนหลักในการดำเนินการ และลองนึกภาพว่าหากข้อมูลธุรกรรมเชิงธุรกิจที่ต้องอัพเดทข้อมูลแบบ Real Time ตลอดเวลา จำนวนธุรกรรมนั้นจะมากมายขนาดไหนกัน ลองนึกถึงภาพรถบนถนนที่วิ่งแล่นในพื้นที่ที่แคบ มันส่งผลให้เคลื่อนตัวรถได้ช้าเราจึงต้องปรับตัวเองให้เล็กลงเพื่อให้มีพื้นที่ในการขับเคลื่อนเพิ่มมากขึ้นซึ่งเมื่อเล็กลงแล้วก็จะทำให้คุ้มค่ากับพลังงานที่เสียไป ดีกว่าจอดรถอยู่กับที่และสูญเสียพลังงานไปเรื่อยๆ ในขณะเดียวกับบนระบบ Blockchain ที่มีการแลกเปลี่ยนธุรกรรมจำนวนมากนั้น หากสร้างอยู่บนเครือข่ายของ Ethereum แล้วจะทำให้การส่งผ่านข้อมูลมีต้นทุนในการดำเนินการที่สูงขึ้น
Band Protocol ทำบริการด้านการเปลี่ยนผ่านข้อมูลจากโลกจริง ไปโลก Blockchain หรือการเชื่อมโยงข้อมูลจาก Oracle ไปยัง Smart Contract แรกเริ่ม Band Protocol เปิดตัวบน Ethereum Blockchain และภายหลังได้มีการพัฒนา Band Chain โดยใช้ Cosmos SDK เพื่อถ่ายทอดข้อมูลข้ามบล็อกเชนต่างๆ

ทำไม Band Protocol ถึงเลือก Cosmos SDK
Cosmos-SDK เป็น Open Source Blockchain Framework กล่าวคือเป็น โครงสร้างที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานสำหรับการสร้างบล็อกเชนเพื่อไว้สำหรับพัฒนาเป็น Application โดยเป้าหมายของ Cosmos SDK คือการอนุญาตให้นักพัฒนาสร้างบล็อกเชนที่กำหนดเงื่อนไขเองได้อย่างง่ายดายเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ชำนาญการ โดยมีจุดเด่นคือสามารถทำงานร่วมกับบล็อกเชนอื่นๆ ได้และยังเป็น Application-Specific Blockchains อีกด้วย
Application Specific Blockchains
กระบวนการในการพัฒนา Blockchain ในปัจจุบัน คือ การสร้าง Virtual Machine Blockchains เสมือนจริงขึ้นมาอย่างเช่น Ethereum ซึ่งโดยทั่วไปจะไว้ใช้สร้าง Application ผ่าน Smart Contract แม้ว่ามันจะมีความปลอดภัยและถูกนำมาใช้งานกับโลกการเงินอย่าง ICO แต่มันก็ยังมีข้อจำกัดในการใช้งานในแง่ของความยืดหยุ่นของเงื่อนไขการใช้งาน และด้านประสิทธิภาพ
สำหรับ Application Specific Blockchains นั้นมีวิสัยทัศน์ของกระบวนการพัฒนาต่างจาก Virtual Machine Blockchains ซึ่ง Specific Blockchains ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานและปรับแต่งสำหรับแอปพลิเคชันบล้อกเชนแบบกำหนดเองให้เหมาะสมกับแนวทางการพัฒนาได้ นักพัฒนาจึงมีอิสระในการตัดสินใจออกแบบที่จำเป็นสำหรับแอปพลิเคชันในการทำงานอย่างเหมาะสมที่สุด จึงทำให้เกิดความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย

Cosmos SDK ได้รับความนิยมในการสร้าง Blockchain
Cosmos SDK เป็นเฟรมเวิร์กที่ล้ำหน้าที่สุดสำหรับการสร้างบล็อกเชนแอปพลิเคชันแบบกำหนดเองซึ่งมีข้อดีต่างๆ ดังนี้
1.เป็น Open Source ที่เปิดให้ผู้พัฒนาทุกคนสามารถใช้ได้
2.ง่ายต่อการเริ่มต้นในการสร้าง Blockchain เป็นของตัวเอง
3.มีความปลอดภัยสูง
4.มี Application จำนวนมากที่ใช้ Cosmos SDK เช่น Binance Chain , Terra, Kava
5.มีความหยืดหยุ่นสูงในการพัฒนา โดยนักพัฒนาใช้ภาษาอะไรพัฒนาก็ได้ผ่าน Consensus Engine ที่เรียกว่า ABCI
Band Protocol แก้ปัญหาอะไร
Band Protocol ถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาแอปพลิเคชันสัญญาอัจฉริยะ dApp ซึ่งยังมีจุดเสียตรงที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลในโลกแห่งความเป็นจริง (Oracle) ได้ ซึ่งนอกจากนี้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นบน Blockchain ทั้งเรื่องความเร็วในการทำธุรกรรมที่ล่าช้า เพราะระบบบนเครือข่าย Blockchain ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการขยายขนาดของข้อมูลที่มีจำนวนมาก เหล่านี้คือจุดอ่อนที่ Band Protocol เกิดขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เพราะว่าการเชื่อมต่อของข้อมูลในเชิงธุรกิจนั้นต้องการความโปร่งศัยและต้องการข้อมูลแบบ Real Time Update จึงทำให้ Band Protocol นั้นต้องทำการบ้านอย่างนักในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่นั้นก็ไม่ใช่สิ่งยากสำหรับพวกเขา

Oracle ผู้บันทึกและจัดการข้อมูลแห่งโลกความเป็นจริง
เมื่อโลกเราได้หมุนตัวเองด้วยระบบธุรกิจที่ส่วนใหญ่ต้องใช้กำไรเป็นตัวชี้วัด ปัจจุบันมีเทคโนโลยีด้านข้อมูลต่างๆมากมายเกิดขึ้น และพยายามคาดการณ์หาแนวโน้มช่องทางการทำกำไรจากเหตุการณ์ต่างๆในอดีตเพื่อทำนายในอนาคต และส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือการจัดทำชุดข้อมูลเพื่อไว้ใช้งาน ซึ่งเทคโนโลยีในการจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพนั้นเราเรียกกันว่า “Oracle”
Oracle คือ โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล ผลิตโดยบริษัทออราเคิล มันคือรูปแบบโปรแกรมที่เข้าไปช่วยบริษัทต่างๆ บริหารงานและพัฒนาระบบข้อมูล หรือเรียกกันว่า Relational Database Management ซึ่ง Oracle นับว่าเป็นโปรแกรมจัดการด้านข้อมูลเชิงพาณิชย์ตัวแรกของโลกซึ่งมีข้อดีต่างๆ ดังนี้
1.เป็นตัวกลางคอยติดต่อ ประสาน ระหว่างผู้ใช้และฐานข้อมูลเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน
2.สามารถจัดการข้อมูลได้อย่างมีระบบและประสิทธิภาพสูง
3.สามารถบันทึกและแก้ไขข้อมูลได้
4.สร้างโดยบริษัท Oracle ทำให้มีความมั่นคงและน่าเชื่อถือ
ระบบจัดเก็บข้อมูล Oracle ได้รับความนิยมและมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง เหมาะกับการจัดการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องการความปลอดภัยและความมั่นคง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นชื่อว่าเทคโนโลยีเมื่อถึงจุดหนึ่งก็ต้องมีปัญหาให้ผู้ใช้งานได้พบเจอได้อยู่ตลอด
จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อ Covid-19 สามารถเก็บไว้ใน Oracle ได้
รู้หรือไม่ว่าการเก็บจำนวนตัวเลข Covid-19 สามารถบันทึกข้อมูลไว้ใน Oracle ได้ โดยทั่วไปแล้ว Oracle ก็เหมือนเป็นการบริการ ใครๆก็สามารถประยุกต์ใช้ได้กับข้อมูลที่มีความหลากหลาย ตัวระบบก็เปรียบเสมือนตัวกลางในการเก็บข้อมูลที่ถูกโอนถ่ายมาจากแหล่งข้อมูลหลักอีกทีเพื่อมาเก็บไว้นั้นเอง นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอีกมากมายที่สามารถบันทึกไว้ใน Oracle ได้ อย่างเช่น อุณหภูมิแต่ละประเทศ, ตัวเลขการว่าจ้างงานสหรัฐ, ตัวเลขการนำเข้าหรือส่งออก หรือแม้แต่แบบบันทึกเวลาการเข้าออกของพนักงานก็สามารถถูกเก็บไว้ใน Oracle ได้เช่นกัน
ปัญหาของข้อมูล Oracle
อย่างที่ทราบกันดีว่าความสำคัญของข้อมูลนั้นเป็นอย่างไร โดยทั่วไปแล้วสำหรับผู้ดูแลระบบที่เคยทำงานดูแลฐานข้อมูล Oracle คงเคยเจอกับปัญหาการเชื่อมต่อไปยังฐานข้อมูลไม่ได้ ซึ่งอาจะเกิดจากหลายปัญหา เช่น ปัญหาที่ตัวฐานข้อมูลเอง หรือ ปัญหาทางด้านระบบเครือข่าย จึงทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในการดำเนินการและอาจจะทำให้เกิดความล่าช้าอีกด้วย ทั้งนี้ข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในระบบยังสามารถแก้ไขย้อนกลับได้ด้วยทำให้เกิดความไม่โปร่งใส
Band Protocol ใช้ Blockchain เพื่อแก้ปัญหา Oracle ยังไง ?
Band Protocol ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อมาแก้ไขปัญหาเรื่องของความโปร่งใสและการถ่ายโอนข้อมูลที่มีประสิทธิภาพโดยเลือกใช้เทคโนโลยี Blockchain เข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนและพัฒนาโดยวิธีแก้ไขปัญหานี้ Band Protocol ทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลจากฝั่ง Oracle เข้าไปสู่ Smart Contract ที่เปรียบเสมือนผู้รักษาความปลอดภัยของข้อมูล หรือจะอธิบายสั้นเหมือน Band Protocol เป็นเลเยอร์มิดเดิลแวร์ ซึ่งทำงานระหว่าง dApp และ แหล่งข้อมูลบนโลก Oracle นั้นเอง

dApp กับ Oracle ภาพฝันของ Blockchain ที่ก้าวสู่โลกแห่งความจริง
ในการประยุกต์ใช้และพัฒนา dApp ที่เอาข้อมูล Oracle มาใช้จะทำให้เกิดโมเดลธุรกิจต่างๆเพิ่มขึ้นอีกมากมายโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ที่ต้องใช้การทำธุรกรรมที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ซึ่งจุดนี้นับว่าเป็นจุดได้เปรียบสำหรับการบริการของ Band Protocol ซึ่งเป็นตัวกลางในการทำหน้าที่ดังกล่าว
เช่น ธุรกิจที่ทำการบริการเกี่ยวกับ DeFi ที่เป็นการบริการบนโลก Blockchain ที่ยังต้องการข้อมูลกิจกรรมทางการเงินและข้อมูลจากตลาดจริงภายนอก Blockchain เข้ามาเพื่ออัพเดทตลอดเวลา เจะเป็นอย่างไรหากแพลตฟอร์มต่างๆ สามารถดึงข้อมูลมาแสดงผลได้แบบทันที ซึ่งจะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนของข้อมูลน้อยลง และนี่ก็คือหนึ่งในหน้าที่หลักของ Band Protocol นั้นกำลังดำเนินการในขณะนี้
Band Protocol กับภารกิจเชื่อมค่าเงินโลกสู่ Blockchain
Band Protocol ได้ทำการบันทึกข้อมูลค่าเงินของหลายประเทศไว้บน Blockchain ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากๆในฐานะตัวกลางที่ต้องทำหน้าที่ดังกล่าว เพราะทุกประเทศมีสกุลเงินเป็นของตัวเอง มีความแตกต่างเรื่องของราคาที่มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา Band Protocol เปรียบเสมือนคนที่กำหนดทิศทางของตลาดเลยก็ว่าได้เพราะข้อมูลนั้นเป็นส่วนสำคัญในการประยุกต์ใช้กับธุรกิจต่างๆ นอกจากนี้ Band Protocol ยังมีการบริการเชื่อมข้อมูลของแร่เงิน (XAG) และ ทองคำ (XAU) อีกด้วย ซึ่งสามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ Band Standard Dataset

Synthetic Asset ซื้อหุ้นโลกจริงด้วยเงินคริปโต ?
ด้วยความร้อนแรงของ DeFi ที่แพร่หลายอย่างรวดเร็วมากในช่วงปี 2020 เป็นต้นมา ได้มีผู้ลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ด้วยเหตุนี้เองทำให้นักพัฒนาระบบ DeFi นั้นเล็งเห็นช่องทางการดึงเม็ดเงินจากตลาดหุ้นบนฝั่งโลกจริง เข้ามาเชื่อมกับโลก DeFi ที่ใช้ระบบ Blockchain เป็นตัวขับเคลื่อนและสร้างความน่าเชื่อถือผ่าน Smart Contract จึงทำให้เกิด Synthetic Asset ซึ่งเปรียบเสมือนสินทรัพย์สังเคราะห์ที่อ้างอิงราคาจากมูลค่าในตลาดหุ้นจริง เช่น Tesla Microsoft Alibaba เป็นต้น โดยกลไกการทำงานของ Synthetic Asset บน Blockchain นั้นจะถูกอ้างอิงกับ Stable Coin ที่มีมูลค่าคงที่เท่ากับ US Dollar เท่านั้น จึงทำให้ทั้ง 2 โลกสามารถเข้ากันได้อย่างไร้รอยต่อและสามารถนำไปต่อยอดเป็น Yield Farming ได้อีกด้วย

Synthetic Asset อ้างอิงข้อมูลอย่างไร ถูกต้องหรือไม่ ?
ในการอ้างอิงราคาของ Synthetic Asset จะใช้ข้อมูลจากผู้ให้บริการด้าน Oracle Data ที่เป็นข้อมูลจากจาก Off Chian โดยมีตัวกลางการให้บริการอย่าง Band Protocol นั้นคอยเป็นตัวกลางเชื่อมข้อมูลราคาสินทรัพย์ให้มีราคาตรงตามสภาพตลาด
หลักการสร้าง Synthetic Asset นั้นก็คือการนำทรัพย์สินไปวางเป็นหลักค้ำประกันไว้กับแพลตฟอร์มที่ต้องการสร้าง ซึ่งหลักประกันนี้จะถูกเรียกว่า Collateral Assets โดยแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีการกำหนดสัดส่วนในการวางค้ำประกันแตกต่างกันออกไป
โดยสรุปแล้วในการอ้างอิงราคา Synthetic Asset จะต้องมีหลักทรัพย์ที่ค้ำประกันในสัดส่วนที่ผู้สร้างนั้นเห็นว่าปลอดภัยและต้องคอยใช้บริการตัวกลางที่เอาไว้สื่อสารระหว่างข้อมูล On Chain และ Off Chain เพื่อปรับสมดุลมูลค่าราคาให้ตรงตามความเป็นจริงในตลาด
3 คุณสมบัติที่ทำให้ Band Protocol ก้าวมาถึงปัจจุบัน
ดูเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อใช่ไหมครับ ว่าโปรเจคจากประเทศไทยจะก้าวไประดับโลกอย่าง Band Protocol ได้อย่างไร ทีมงานของ Band Protocol นั้นทำให้สร้างแรงจูงใจให้กับคนรุ่นใหม่อยากก้าวไปถึงจุดสูงสุดของวงการ Blockchain ให้เทียบเท่าหรือไกลกว่า Band Protocol บ้าง แต่อย่างที่ทราบกันดีเส้นทางของเขาไม่ได้มาง่ายๆ สิ่งที่ Band Protocol ทำขึ้นมานั้นตอบโจทย์ของคนที่ต้องการนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาประยุกต์ใช้กับธุรกิจเป็นอย่างมาก ซึ่งทาง Band Protocol นั้นยึดหลัก 3 ประการในการดำเนินงานเพื่อพัฒนาให้พวกเขาเติบโตแบบก้าวกระโดด จะมีอะไรบ้างไปดูกันครับ
- Speed and Scalability
ระบบของ band Protocol นั้นสามารถให้บริการรับส่งข้อมูลธุรกรรมจำนวนมากไปยัง Public Blockchain ในเครือข่ายได้หลายอันโดยใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที - Cross-Chain Compatibility
Band Protocol ได้ออกแบบและพัฒนาระบบสามารถเชื่อมต่อและรับส่งธุรกรรมผ่านเครือข่าย Blockchain ได้หลากหลาย - Data Flexibility
ผู้พัฒนาต้องการให้ระบบสามารถใช้งานได้ง่ายและรองรับนักพัฒนาที่สามารถเขียนได้หลายภาษาซึ่ง Band Protocol จะทำหน้าที่ดึงและรวบรวมข้อมูล จึงทำให้มันมีความหยืดหยุ่นสูงมาก
เหตุนี้เองจึงทำให้ Band Chain ก้าวมาเป็นผู้บริการด้าน Oracle Data ที่สำคัญรายหนึ่งบนโลก Blockchain ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในโปรเจคที่อนาคตน่าจะเติบโตต่อไปได้อีกเป็นอย่างมาก
Founders
นาย สรวิศ ศรีนวกุล ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO ของ Band Protocol เรียนจบจากสถาบัน Stanford University สาขา วิศวกรรมซอฟแวร์ ด้วยความเก่งของเขาเพียงวัย 28 ปี เขาได้ถูกบันทึกลง Forbes 30 ที่เป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จอายุต่ำกว่า 30 ปี
Roadmap
Band Protocol ต้องการที่จะพัฒนาและขับเคลื่อนระบบนิเวศแบบกระจายศูนย์ที่มีความปลอดภัยสูงโดยได้ออกแบบแนวทางการพัฒนา BandChain ไว้เป็น 3 ช่วงหลักๆ ดังนี้
- Phase 0 เป็นเวอร์ชันพื้นฐานของ BandChain ที่จะเปิดใช้งานการโอนเหรียญ BAND เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการ Staking ในอนาคต
- Phase 1 พัฒนาระบบเพื่อเตรียมรองรับแหล่งข้อมูลในช่องทางอื่นๆ และพัฒนา Oracle ให้สามารถใช้งานกับ Blockchain ได้หลากหลายชนิด
- Phase 2 ปรับปรุงความสามารถในการเชื่อมต่อข้อมูล API เพื่อให้ใช้บนระบบ Internet ได้
- Phase 3 ปรับปรุงและพัฒนาให้ระบบรองรับ Private&identity Oracle ที่เตรียมพร้อมไปสู่การเชื่อมต่อข้อมูลขององค์กร โดยในขั้นนี้ทาง Band Protocol มุ่งหวังที่จะสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งและทำงานร่วมกับ Smart Contract ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Tokenomics
Band Protocol มีเหรียญ Band เป็น Governance Token ซึ่งมีจำกัดอยู่ที่ 100 ล้านเหรียญ โดยในปัจจุบันอ้างอิงจาก Etherscan มูลค่าของเหรียญ Band ราคาอยู่ที่ $7.83 อ้างอิงจากวันที่ 21 Sep 21 โดยสัดส่วนของ Band Protocol นั้นถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ ดังนี้
- Seed Sale Investors ถูกแบ่งไว้ 10.00% จากเหรียญทั้งหมด
- Private Sale Investors ถูกแบ่งไว้ 5.00% จากเหรียญทั้งหมด
- Public Sale Investors ถูกแบ่งไว้ 12.37% จากเหรียญทั้งหมด
- Ecosystem ถูกแบ่งไว้ 25.63% จากเหรียญทั้งหมด
- Team ถูกแบ่งไว้ 20% จากเหรียญทั้งหมด
- Advisors ถูกแบ่งไว้ 5.00% จากเหรียญทั้งหมด
- Foundation ถูกแบ่งไว้ 22.00% จากเหรียญทั้งหมด

- BAND Token Utility
เหรียญ Band สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆได้ดังนี้
- Collateral/Stake for Validators
สามารถนำเหรียญ Band ไปใช้เป็นหลักประกันเพื่อใช้ในการ Staking รับ Reward ได้ - Medium of Exchange
สามารถใช้เหรียญ Band ไว้ชำระในการทำธุรกรรม เพื่อเป็นส่วนลดในค่าธรรมเนียมสำหรับการใช้งานบน Band Chain - Participation in BandChain Governance
ใช้สำหรับโหวตลงคะแนนเพื่อพัฒนาระบบ Band Chain ต่อไปในอนาคต
Partnerships
CoinGecko
CoinGecko หนึ่งในผู้รวบรวมข้อมูล Crypto ที่เก่าแก่ที่สุดและเป็นผู้นำทางด้านข้อมูลข่าวสารด้านคริปโต ได้ร่วมมือกับ Band Protocol เพื่อจัดหาฟีดราคาที่แม่นยำและเชื่อถือได้สำหรับสินทรัพย์คริปโตมากกว่า 6,000 รายการ จากการแลกเปลี่ยนมากกว่า 400 รายการ นอกจากนี้ยังได้รับความไว้วางใจและใช้งานร่วมกับ Metamask, Trezor, Trust Wallet อีกด้วย

Binance
Binance เป็นหนึ่งใน Exchange Market ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังเป็นผู้สนับสนุน Band Protocol จากการะดมทุนรอบ Seed Round เมื่อปี 2019 อีกด้วย ทั้งนี้นาย Changpeng Zhao ยังได้กล่าวไว้ด้วยว่า “Binance มุ่งมั่นที่จะเติบโตระบบนิเวศบล็อคเชน รวมถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องกับโปรเจคที่เกี่ยวกับ Decentralized Finance ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศของ Binance ปัจจุบันเราทำงานร่วมกับโปรเจกต์บล็อคเชนมากมาย รวมถึง Band Protocol เพื่อสร้างสภาพคล่องให้กับระบบ และด้วยความช่วยเหลือของข้อมูลของ Band Protocol มันสามารถช่วยเร่งการเติบโตของ DeFi ได้เป็นอย่างดี”

Summary
Band Protocol นับว่าเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่จะมาเปลี่ยนแปลงการบริการด้านข้อมูลของสินทรัพย์ที่ถูกสร้างด้วย Blockchain โดยผู้พัฒนาได้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบ Blockchain กับข้อมูลที่อยู่นอกเครือข่าย (Off Chain) พวกเขาจึงสร้างระบบบริการที่นำข้อมูล Oracle เชื่อมไปยัง Blockchain เพื่อเชื่อมให้โลกธุรกิจจริงเข้าไปสู่ Smart Contract ที่สามารถยืนยันและตรวจสอบความถูกต้องได้อย่างโปร่งใส นอกเหนือจากนี้ปัจจัยหลักอย่างเช่น ตลาดหุ้น ที่ต้องมีขั้นตอนหลายอย่างในการใช้บริการไม่ว่าจะเป็นการยืนยันตนเพื่อความปลอดภัยเมื่อมันถูกนำมาประยุกต์ใช้บน Blockchain สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องง่ายไปเลยเนื่องจากทุกอย่างที่สร้างบน Blockchain จะสามารถตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส และสำหรับเรื่องมูลค่าสินทรัพย์ที่อ้างอิงจากราคาค่าเงินของแต่ละประเทศที่มีโครงสร้างซับซ้อน ทาง Band Protocol ก็พิสูจน์แล้วให้เห็นว่าเขาสามารถทำได้ และมีบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Binance เป็นผู้สนับสนุนหลักอีกด้วย
ทั้งหมดนี้อาจจะยังอยู่ในช่วงที่ Band Protocol นั้นกำลังพัฒนาซึ่งในอนาคตจะเป็นอย่างไรเรานั้นก็คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดกับโปรเจคนี้ว่าจะสร้างบริการรูปแบบใหม่อย่างไรบ้างต่อไป หวังว่าผู้อ่านจะชอบบทความนี้กันนะครับ
Source :
https://docs.bandchain.org/whitepaper/
https://decrypt.co/resources/what-is-band-protocol-defi-oracle
https://research.binance.com/en/projects/band-protocol
คำเตือน
1.คริปโทเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน
2.คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนโปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
3.สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้